หลีกเลี่ยง…อาหารที่จะทำให้ฟันผุ
หลีกเลี่ยง…อาหารที่จะทำให้ฟันผุ
อาหารที่ทำให้ฟันผุมีอะไรบ้าง ?
นอกจากละเลยการทำความสะอาดฟันเป็นประจำแล้ว หนึ่งในปัญหาฟันที่เกิดขึ้นกับคนทุกช่วงวัยนั้นเกิดจากการทานอาหารที่ทำร้ายฟัน แล้วรู้หรือไม่ว่าอาหารที่ทำให้ฟันผุมีอะไรบ้าง
ฟันผุเป็นสาเหตุทั่วไปของอาการปวดฟัน เกิดขึ้นเมื่อแบคทีเรียในปากทำปฏิกิริยา น้ำตาลในเศษอาหารที่ค้างอยู่ ทำให้เกิดกรดซึ่งสามารถกัดกร่อนเคลือบฟันจนเป็นโพรง หรือรูได้ หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา โพรงเหล่านี้อาจผุลึกลงไปถึงชั้นด้านในของฟัน หรือที่เรียกว่า ‘เนื้อฟัน’ คุณอาจเริ่มมีอาการเสียวฟันเมื่อทานอาหารร้อนหรือเย็น รวมถึงอาหารที่มีรสหวานจัดๆ หากผุลึกถึงโพรงประสาทฟัน ถ้าอยากเก็บฟันไว้ ก็ต้อง รักษารากฟัน
ลูกอม ลูกกวาด
ลูกอมหรือลูกกวาด มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งจะเข้าไปเกาะติดที่บริเวณผิวฟัน ส่งผลเสียต่อผิวฟัน นอกจากจะทำให้ฟันผุแล้วยังอาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไปด้วย
น้ำอัดลม
น้ำอัดลมมีส่วนประกอบของกรดคาร์บอนิกและน้ำตาล จึงมีความเป็นกรดสูงมาก มีฤทธิ์กัดกร่อนผิวเคลือบฟัน ทำให้ผิวเคลือบฟันบางลง หากคุณดื่มเป็นประจำอาจส่งผลให้เนื้อฟันถูกทำลาย จนกลายเป็นฟันผุ แถมยังเพิ่มโอกาสเกิดแผลในช่องปากง่ายขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน เนื่องจากน้ำอัดลมมีปริมาณฟอสฟอรัสมากเกินไป ร่างกายจึงต้องดึงแคลเซียมจากกระดูกมาใช้เพื่อปรับสมดุล เมื่อกระดูกขาดแคลเซียมเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนตามมาง่ายกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำอัดลมหรือดื่มนาน ๆ ที นอกจากนี้คาเฟอีนในน้ำอัดลมยังส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ร่างกายจึงสูญเสียแคลเซียมเพิ่มขึ้น
ชา กาแฟ
ส่วนผสมหนึ่งของชา, กาแฟและไวน์ที่มีผลต่อปัญหาฟันคือ สารแทนนิน (Tannin) ทำให้เกิดคราบเหลืองบริเวณผิวฟัน แถมยังมีน้ำตาลสูงและมีกรดสูงที่ทำลายผิวเคลือบฟัน ทำให้ฟันผุกร่อนง่ายขึ้น และหากคุณชอบดื่มชาหรือกาแฟร้อนก็อาจมีปัญหาได้ด้วยเช่นกัน จากการที่เนื้อเยื่อรอบปากถูกทำลาย ทั้งเหงือก, เพดานเหงือก, กระพุ้งแก้มและลิ้น ทำให้ชั้นผิวบางลง
น้ำแข็ง
หากคุณกัดเคี้ยวน้ำแข็งเป็นประจำ จะส่งผลให้ผิวเคลือบฟันสึกกร่อนจากการใช้งานหนัก จัดว่าอันตรายร้ายแรงพอ ๆ กับการใช้ฟันเปิดขวดเลยทีเดียว นอกจากนี้การกินน้ำแข็งมากเกินไปจะทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายที่สัมผัสน้ำแข็งเกิดอาการหดตัวและรบกวนภาวะปกติของร่างกาย ทำให้ระบบโฮมีโอสเตซิส (Homeostasis) ของร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง
ช็อกโกแลต Chocolate
ช็อกโกแลต การทานช็อกโกแลตแช่แข็งทำร้ายฟันและกล้ามเนื้อบริเวณกราม และทำให้เหงือกได้รับผลกระทบจากแรงกดตามไปด้วย
เครื่องดื่มแอลกอฮอร์
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จะมีน้ำตาลผสมอยู่มาก ทำให้เกิดการสะสมแบคทีเรียในช่องปาก และทำให้เกิดฟันผุ
เครื่องดื่มชูกำลังและน้ำหวาน
แม้ว่าเครื่องดื่ม 2 ประเภทนี้จะดื่มเพื่อให้ความรู้สึกสดชื่นตื่นตัวก็ตาม แต่ทั้งคู่ก็มีส่วนผสมที่ทำร้ายฟันเหมือนกันนั่นก็คือปริมาณน้ำตาลจำนวนมาก
อาหารที่มีประโยชน์ต่อฟัน
อาหารที่คุณเลือกและพฤติกรรมในการรับประทานส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพช่องปากของคุณ สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อฟันจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพฟัน บำรุงฟันให้แข็งแรงจากภายใน
- อาหารที่ไฟเบอร์อุดมไปด้วยวิตามิน อย่างผักผลไม้สดที่มีใยอาหาร อย่าง แอปเปิ้ล แครอท ขึ้นฉ่ายฝรั่งหรือเซเลอรี่ หรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต, ธัญพืช , เผือก, มันเทศ, โฮลวีท
- สารแอนโธไซยานินจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ และราสเบอร์รี่ สารแอนโธไซยานินนี้ที่ป้องกันการเกาะติดและของแบคทีเรียในช่องปาก ช่วยขัดขวางกระบวนการสร้างแบคทีเรียซึ่งทำให้เกิดคราบพลัคและฟันผุน้อยลง
- แคลเซียม เป็นส่วนประกอบหลักของฟัน ช่วยในเรื่องการเสริมสร้างฟันให้แข็งแรง และการทานอาหารที่มีแคลเซียม เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม เนย โยเกิร์ต อาหารทะเล กุ้ง ปลาแซลมอน หอยนางรม ผักตระกูลกะหล่ำ ถั่ว และมะเดื่อ จึงช่วยนำแร่ธาตุที่จำเป็นกลับคืนสู่ฟัน
- แมกนีเซียม ทำงานร่วมกับแคลเซียมเพิ่มความแข็งแรงให้กับเนื้อฟันและเคลือบฟัน เพราะแมกนีเซียมช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดี อาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ได้แก่ ผักใบเขียว ผักโขม ถั่วลันเตา กล้วย โกโก้ อะโวคาโด พืชตระกูลถั่วหรือธัญพืชต่างๆ เช่น อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดงา และเมล็ดฟักทอง
- น้ำเปล่า การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อวัน ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลาย ลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในช่องปาก ลดอาการปากแห้ง
- ฟลูออไรด์ ข้อดีคือ เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวเคลือบฟัน ช่วยป้องกันฟันผุ อาหารที่มีฟลูออไรด์สูง ได้แก่ ผลไม้ต่างๆ เช่น องุ่น ลูกเกด กล้วย แอปเปิล สตอร์เบอร์รี่ พีช แตงโม, ผักใบเขียว กุ่ยช่าย มันฝรั่ง แครอท, อาหารทะเล พวกปลาทะเล, น้ำดื่ม ใบชา กาแฟ นม
เพื่อสุขภาพฟันที่ดี ควรบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดทันทีหลังจากแปรงฟัน และควรแปรงฟันหลังจากอาหารไปแล้ว ประมาณ 30 นาที ที่สำคัญอย่าลืมพบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อตรวจหาความผิดปกติต่าง ๆ เพื่อให้ฟันของคุณมีสุขภาพแข็งแรงไปนาน ๆ
การบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เน้นอาหารที่มีกากใย อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ โดยเฉพาะแคมเซียม แมกนีเซียมช่วยบำรุงฟัน และทานอาหารครบ 5 หมู่ เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร
นัดตรวจฟันกับคุณหมอใจดี ที่นี่
อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นกรดและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการการสึกหรอของฟัน ทำให้เกิดฟันผุได้
คำถามถามที่พบบ่อย
Q : จะรู้ได้อย่างไรว่าฟันผุ ?
A : อาการที่พบนอกเหนือจากจุดหรือรูสีน้ำตาลดำบริเวณผิวฟันแล้ว อาการที่อาจตามมาหากไม่ได้รับการรักษา คือ อาการปวดฟัน เสียวฟัน ปวดฟันมากเวลากัดหรือเคี้ยวอาหาร หรือเวลารับประทานอาหารที่มีรสหวาน อาหารร้อน ๆ ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น ฟันเปลี่ยนสี หรือเป็นหนอง
Q : ฟันผุต้องทำอย่างไร ?
A : ต้องพบทันตแพทย์ทันที ยิ่งรักษาเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งมีผลดีต่อการรักษา
Q : ต้องปวดฟันแค่ไหนถึงจะต้องไปพบทันตแพทย์ ?
A : เมื่อปวดฟันคุณควรไปพบคุณหมอทุกกรณี ไม่ควรปล่อยไว้เป็นเวลานาน เพราะคุณอาจสูญเสียฟันได้