การอุดฟัน คือการบูรณะฟันรูปแบบหนึ่ง โดยใช้วัสดุอุดฟันเติมเข้าไปทดแทนเนื้อฟันที่สูญเสียไปในกรณีต่างๆ เช่น ฟันผุ ฟันสึก ฟันหักแตกหรือบิ่นเนื่องจากอุบัติเหตุ วัสดุเก่าที่เคยอุดชำรุด เป็นต้น เพื่อให้ฟันกลับมามีรูปร่างตามปกติ สามารถใช้บดเคี้ยวอาหารได้

วัสดุที่นำมาใช้อุดฟัน

• อมัลกัม (Amalgam) เป็นวัสดุที่นิยมนำใช้มากที่สุดและใช้ง่ายที่สุด เพราะรวดเร็วและราคาไม่แพง อยู่ได้ประมาณ 10-15 ปี ทนทานแต่จะไม่ถูกเลือกใช้กับบริเวณฟันหน้า
• คอมโพสิตเรซิ่น (Composite Resin) เป็นวัสดุที่มีสีเหมือนสีฟัน เหมาะกับผู้ที่ฟันผุบริเวณฟันหน้า ให้ความสวยงามและแข็งแรงทนทาน
• กลาสไอโอโนเมอร์ (Glass Ionomer) มักใช้อุดฟันเด็กเล็กหรือผู้มีความเสี่ยงต่อฟันผุสูง เพราะสามารถปล่อยฟลูออไรด์ได้

การดูแลตัวเองหลังอุดฟัน

• ใช้แปรงสีฟันขนอ่อนนุ่มและแปรงฟันให้ถูกวิธี
• ใช้น้ำยาบ้วนปากต่อต้านแบคทีเรียอย่างน้อยวันละครั้งภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์
• ฟันที่ผ่านการอุด ไม่ว่าด้วยวัสดุอะไร ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็งเกินปกติ เช่น ก้อนน้ำแข็ง กระดูกอ่อน เพราะอาจทำให้วัสดุแตกหรือหลุดได้

อาการที่พบได้หลังอุดฟัน

คนไข้อาจมีอาการเสียวฟันหลังทำการอุดฟัน แต่อาการนี้สามารถหายได้เองในช่วง 1-2 สัปดาห์ หรือมีอาการปวดฟันได้ สามารถทานยาระงับอาการปวดแต่หากอาการไม่ทุเลาลงหรือมีอาการผิดปกติแนะนำให้กลับมาพบคุณหมอโดยด่วน

ข้อดีของการอุดฟัน

• ลดโอกาสที่จะทำให้ฟันผุลุกลามได้
• ลดโอกาสการเสียวฟัน เช่น คอฟัน เป็นต้น
• เสริมเนื้อฟันให้แข็งแรงขึ้นและกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
• เป็นการบูรณะฟันที่รวดเร็ว

ข้อเสียของการอุดฟัน

• ขณะอุดฟันอาจมีเสียวหรือเจ็บได้
• วัสดุอุดแข็งแรงน้อยกว่าการทำครอบฟัน ไม่สามารถทำการรักษาในกรณีที่สูญเสียเนื้อฟันไปเยอะได้
• การฉีดยาชาเพื่ออุดฟัน อาจจะทำให้การเช็คเช็คการสบฟันได้ยาก

– การอุดฟัน ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากและน่ากลัวกว่าที่คิด แต่หากฟันผุแล้วละเลย ไม่ทำการรักษา ในอนาคตอาจจะสูญเสียฟันไปเลยก็ได้ –