จัดฟัน (Orthodontics)

การจัดฟัน คือ การแก้ไขการเรียงตัวของฟันที่มีปัญหาสบกันผิดปกติ หรือเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ เช่น ฟันยื่นหรือฟันเหยิน ฟันซ้อนเก ฟันห่าง สบคร่อม เป็นต้น การเรียงตัวของฟันที่ไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสวยงามที่ส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจ หรือจะเป็นปัญหาเรื่องการใช้งานในการบดเคี้ยวอาหาร ไปจนถึงการทำความสะอาดที่ยากขึ้นเนื่องจากมีเศษอาหารติดและทำความสะอาดได้ยาก

การจัดฟันจะช่วยปรับการเรียงตัวของฟันและขากรรไกร อีกทั้งยังช่วยปรับโครงหน้าให้เข้ารูป ซึ่งเป็นการช่วยปรับบุคลิกภาพให้ดียิ่งขึ้น เสริมสร้างความมั่นใจ มีรอยยิ้มที่สวยงาม พร้อมกับสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น

ประเภทการจัดฟัน

ประเภทการจัดฟันมี 2 ประเภท คือ
รูปจัดฟันในเว็ป

การจัดฟันแบบโลหะ

การจัดฟันแบบโลหะ (Metal braces)
เป็นการจัดฟันโดยการติดเครื่องมือแบบโลหะหรือเหล็กไว้ที่ผิวฟันด้านนอก เพื่อทำการเคลื่อนฟันและเรียงฟันให้สวยงาม วิธีนี้เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
มีสียาง (O-ring) มากมายที่มีให้เลือกตามความพอใจของผู้ติดเครื่องมือจัดฟัน ทั่วไปแล้วสียาง (O-ring) จะมีอายุการใช้งานที่สั้นจึงต้องมาพบแพทย์ทุกเดือนเพื่อดูเปลี่ยนลวด สียาง (O-ring) โดยปัจจุบันได้มีการพัฒนาขนาดของวัสดุที่ใช้ให้มีขนาดเล็กลง มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและให้ความรู้สึกสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น

ใครที่ควรจัดฟันแบบโลหะ

การจัดฟันแบบโลหะ เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้ทำงานที่ต้องใช้หน้าหรือต้องใช้การเจรจา ชอบการติด bracket และชอบใส่ยางสีๆ (o-rings) ผู้ที่งบประมาณจำกัด เพราะราคาไม่สูงมากนัก มีให้แบ่งจ่ายโดยไม่ต้องใช้บัตรเครติด ไม่ต้องใช้เงินเป็นก้อน และผู้ที่เวลาที่จะมาพบแพทย์ได้ทุกเดือน ไม่เร่งรีบกับระยะเวลาในการจัดฟัน
ระยะเวลาในการจัดฟันแบบโลหะ 2 ปี ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคล

ข้อควรปฎิบัติของการจัดฟันแบบโลหะ

- งดอาหารเหนียว อาหารแข็ง เคี้ยวยาก เพราะอาจจะทำให้เหล็กหลุดได้ง่าย
- ควรเอาใจใส่ในการทำความสะอาดช่องปาก มักจะมีเศษอาหารติดตามซอกเหล็กและซอกฟันได้ง่าย ระว่างจัดฟันแบบโลหะ แนะนำให้ "ไหมขัดฟัน" "แปรงซอกฟัน" และ "แปรงสีฟันสำหรับจัดฟัน"
- ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจการเคลื่อนตัวของฟันและเครื่องมือการจัดฟันอยู่เสมอ เพราะหากไม่มาตามกำหนดอาจจะทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันนานขึ้น และอาจเกิดปัญหาในช่องปากเพิ่มขึ้น

ข้อดีของการจัดฟันแบบโลหะ

ช่วยให้ฟันที่เก ซ้อน ห่าง เรียงตัวสวยงามเป็นระเบียบตามต้องการ
ช่วยให้ฟันเข้าที่ ทำให้โครงสร้างใบหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น
ช่วยทำให้การเคี้ยวอาหารดีขึ้น และการสบฟันดีขึ้น
สนุกกับการเลือกสีสันต่างๆของยางได้ตามที่ต้องการ
ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบอื่นๆ
รูปจัดฟันใสในเว็ป

จัดฟันแบบใส

จัดฟันใส คือการจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ เป็นการใช้นวัตกรรมชนิดใหม่เข้าร่วม โดยการแสกนฟันแบบ 3 มิติ เป็นการจัดฟันโดยใช้ Aligner ซึ่งมองไม่เห็นเครื่องมือ สามารถถอดออกเองได้ ผิวสัมผัสเรียบเนียนมีลักษณะโปร่งใส ยืดหยุ่นได้ การจัดฟันใสช่วยแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟัน ให้เรียงตัวได้อย่างสวยงาม โดยไม่ต้องทำการติดยึดวัสดุใดๆ บนฟัน และยังลดความระคายเคืองในช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ง่ายต่อการรับประทานอาหาร การทำความสะอาดและการใช้ชีวิตประจำวัน

ใครที่ควรจัดฟันแบบใส

จัดฟันแบบใส เหมาะกับทุกคน ทุกไลฟสไตล์ โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้หน้าตาในการทำงาน จะช่วยทำให้พูดและยิ้มได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องคอยมานั่งกังวลเรื่องภาพลักษณ์และเหล็กจัดฟันที่โดดเด่นสะดุดตา ที่สำคัญคือไม่ต้องไปพบทันตแพทย์ทุกเดือนเหมือนการจัดฟันแบบเหล็กทั่วไป
ระยะเวลาในการจัดฟันแบบใสประมาณ 12-18 เดือน สำหรับผู้ที่เคยจัดฟันมาก่อนอาจจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน หากใส่ชิ้นงานตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด

จัดฟันแบบใสต้องพบแพทย์บ่อยแค่ไหน

จุดเด่นของการจัดฟันแบบใสคือการมาพบแพทย์ที่ไม่เหมือนกับการจัดฟันแบบทั่วไป
แพทย์จะนัดมาเช็คการเคลื่อนตัวของฟันประมาณ 2-3 เดือน/ครั้ง สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา

ข้อควรปฎิบัติของการจัดฟันแบบใส

- ต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือจัดฟันเป็นเวลา 20 – 22 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้อุปกรณ์จัดฟันทำงานได้ประสิทธิภาพเต็มที่ เเละให้ผลการรักษาเป็นไปตามแผน
- พบทันตแพทย์จัดฟันตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามผลเเละให้การจัดฟันเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
- ขณะถอดเครื่องมือจัดฟันควรเก็บใส่กล่องให้เรียบร้อย ห้ามห่อกระดาษทิชชู่ เพราะจะทำให้สูญหายได้ง่าย
- ถอดทุกครั้งเวลารับประทานอาหาร
- หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ควรแปรงฟันหรือบ้วนปากให้สะอาดก่อนใส่เครื่องมือจัดฟัน

จัดฟันแบบใสที่คาซ่ามีแบบไหนบ้าง?

clearaligner-comparison

ข้อดีของการจัดฟันแบบใส

วัสดุมีลักษณะใส จึงดูเหมือนไม่ได้จัดฟันอยู่
สามารถถอดเครื่องมือออกมาเพื่อแปรงฟัน ทำความสะอาดได้ง่าย
การใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใสจะไม่มีแผลในปาก
ไม่ค่อยมีปัญหาในการพูด ออกเสียง การเคี้ยวอาหาร
ไม่ต้องพบแพทย์บ่อยเหมือนจัดฟันโลหะ

จัดฟันแบบใส และ จัดฟันโลหะ แตกต่างกันอย่างไร

เปรียบเทียบจัดฟันในเว็ป

จัดฟันเสร็จแล้ว ทำไมต้องใส่ "รีเทนเนอร์" ?

RTN

รีเทนเนอร์ (Retainer)

รีเทนเนอร์ (Retainer) คือเครื่องมือคงสภาพฟัน หลังจากจัดฟันเสร็จให้คงเรียงตัวสวย ป้องกันการเกิดฟันล้ม หรือเคลื่อนตัวหลังการจัดฟัน สำหรับคนที่จัดฟันอยู่ หรือจัดฟันใกล้เสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันไว้นั้นเอง

คำแนะนำในการใส่รีเทนเนอร์ (Retainer)

  1. ควรใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลาในช่วง 6 เดือนแรกหลังจากถอดเครื่องมือจัดฟัน
  2. ไม่ใส่รีเทนเนอร์ขณะรับประทานอาหาร เนื่องจากจะทำให้รีเทนเนอร์แตกหัก เสียหาย หรือผิดรูป
  3. ไม่แช่หรือทำความสะอาดรีเทนเนอร์ด้วยน้ำร้อน น้ำเย็น หรือสารเคมี
  4. ควรล้างทำความสะอาดรีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ เช็ดให้แห้ง และเก็บในกล่องเก็บรีเทนเนอร์หากไม่ได้ใช้งาน อย่าห่อในทิชชู่เพราะจะให้เผลอทิ้งโดยไม่รู้ตัว
  5. หากรีเทนเนอร์หล่น หัก หรือได้รับความเสียหายให้พบทันตแพทย์ทันทีเพื่อเปลี่ยนอันใหม่

ประเภทของรีเทนเนอร์ (Retainer)

รีเทนเนอร์ (Retainer) มีหลายรูปแบบ มีทั้งแบบถอดได้ และแบบติดแน่น มีรีเทนเนอร์แบบใส รีเทนเนอร์วิเวียร่า รีเทนเนอร์แบบลวด มีข้อแตกต่างกันออกไปดังนี้

  1. รีเทนเนอร์แบบลวด (Wire Retainer)
  2. รีเทนเนอร์แบบใส (Clear Retainer)
  3. รีเทนเนอร์แบบใสวิเวียร์ร่า (Vivera Retainer)
  4. รีเทนเนอร์แบบติดแน่น (Fixed Retainer)

1.รีเทนเนอร์แบบลวด (Wire Retainer)

มีโครงเป็นอะคริลิคสีบริเวณเพดานปาก ด้านหน้าเป็นลวดโลหะ สำหรับครอบซี่ฟันเพื่อป้องกันฟันเคลื่อนตัว รีเทนเนอร์แบบลวดมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี ทำความสะอาดง่าย สามารถปรับแต่งแก้ไขได้ง่าย มีหลากหลายสี หลากหลายลายให้เลือก

ฐานอะคริลิคของรีเทนเนอร์ลวด มีหลากหลายสีสันให้เลือก
เครื่องมือทำความสะอาดง่าย
อายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี ยาวนานกว่า
RTN2
__________________________________________________________________________________________
RTN3

2.รีเทนเนอร์แบบใส (Clear Retainer)

ลักษณะของรีเทนเนอร์ใสเป็นแผ่นพลาสติกใส ล้อมฟันโดยรอบทั้งด้านนอกและด้านใน  สามารถล็อคฟันไว้ทุกตำแหน่งให้คงสภาพดีกว่าแบบลวด ใส่แล้วไม่รบกวนการออกเสียง รีเทนเนอร์แบบใสแก้ไขไม่ได้ และในการทำความสะอาด รีเทนเนอร์แบบใสจะทำความสะอาดได้ยากกว่าแบบลวด และ เสี่ยงต่อการตกแล้วแตกได้นอกจากการใส่

สามารถล็อคฟันได้ทุกตำแหน่ง
ไม่มีผลต่อการออกเสียงพูด เพราะไม่มีฐานอะคริลิคเหมือนรีเทนเนอร์แบบลวด
ทำให้รอยยิ้มของคุณดูเป็นธรรมชาติ เพราะวัสดุของรีเทนเนอร์ใสมองเห็นได้ยาก
__________________________________________________________________________________________

3.รีเทนเนอร์แบบใสวิเวียร์ร่า (Vivera Retainer)

Vivera คือรีเทนเนอร์ที่ผลิตจากเทคโนโลยีของการจัดฟันใส Invisalign ตัวรีเทนเนอร์ใสของ Vivera จึงคล้ายๆกับตัวชิ้นงานของ Invisalign มีความแข็งแรง มาตรฐาน ยืดหยุ่น ทนทาน

ไม่ต้องพิมพ์ปากโดยวัสดุเหลวๆ เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบความรู้สึกไม่สบายปากขณะพิมพ์ปาก
แข็งแรง ยืดหยุ่น ทนทาน มีมาตรฐานสูง
ทำให้รอยยิ้มของคุณดูเป็นธรรมชาติ เพราะเป็นแบบใส มองไม่เห็นเครื่องมือ

ราคาค่อนข้างสูงกว่ารีเทนเนอร์แบบอื่น

RTN5
__________________________________________________________________________________________
RTN4

4.รีเทนเนอร์แบบติดแน่น (Fixed Retainer)

มีลักษณะเป็นลวดเส้นเดียวยึดติดอยู่ที่ฟันด้านในเพื่อคงสภาพฟัน ไม่สามารถถอดด้วยตัวเองได้ ทันตแพทย์ต้องเป็นผู้ถอดให้เท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบการใส่รีเทนเนอร์แบบถอดได้ หรือมีความกังวลเรื่องวินัยการใส่รีเทนเนอร์ หรือชอบหลงลืม

หมดปัญหาสำหรับผู้ที่มักลืมใส่รีเทนเนอร์ เพราะมันไม่สามารถถอดออกเองได้
มองไม่เห็นรีเทนเนอร์ เพราะอยู่บริเวณด้านหลังของฟัน
เพิ่มความมั่นใจในการพูดคุย ไม่ส่งผลต่อการออกเสียง เนื่องจากอุปกรณ์มีขนาดเล็ก
__________________________________________________________________________________________

เฝือกสบฟัน (Occlusal Splint)

เฝือกสบฟัน

เฝือกสบฟัน (Occlusal Splint)

เป็นเครื่องมือทางทันตกรรมที่ทำด้วยเรซินใส ทำขึ้นให้ใส่คลุมได้พอดีกับฟันของผู้ป่วยแต่ละรายโดยเฉพาะ เพื่อลดความตึงและลดแรงกระแทกในข้อต่อขากรรไกร ทำให้อวัยวะเหล่านี้ได้พักในตำแหน่งที่เหมาะสม จึงช่วยให้หายจากบาดเจ็บได้เร็วขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อ ข้อต่อขากรรไกรและฟันมีความสมดุล ซึ่งสามารถช่วยป้องกันฟันสึกจากการนอนกัดฟันได้อีกด้วย

คำแนะนำให้การให้เฝือกสบฟัน (Occlusal Splint)

ส่วนมากมักจะให้ใส่ตอนนอนทุกคืน ให้ได้ประมาณคืนละ 8-10 ชั่วโมง ถ้านอนดึกอาจใส่ก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง ในกรณีที่ต้องใส่ตลอดเวลา ให้ยกเว้นการใส่ขณะรับประทานอาหาร ทั้งนี้ขึ้นกับโรคและอาการของผู้ป่วยแต่ละราย ให้ใส่เฝือกสบฟันตามคำแนะนำ จนกว่าทันตแพทย์ผู้รักษาจะแนะนำให้ลดการใส่ จนอาจเลิกใส่ได้ในที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

Q : จัดฟันแบบใสกับจัดฟันโลหะ แบบไหนดีกว่ากัน
A : ดีคนละแบบ แล้วแต่ผู้ใช้งานเลยว่าต้องการแบบไหน จัดฟันแบบใสราคาสูง แต่สะดวกกว่าการจัดฟันแบบโลหะ
Q : อายุเท่าไรถึงจะจัดฟันได้
A : อายุที่จัดฟันได้เริ่มต้นที่ 12-13 ปี หรือเมื่อฟันแท้ขึ้นครบ แต่ในบางกรณีควรปรึกษาคุณหมอก่อน
Q : ทำไมต้องใส่รีเทนเนอร์?
A : ใส่เพื่อคงสภาพฟันหลังจากจัดฟันเสร็จ ไม่ให้ฟันล้มหรือกลับไปซ้อนเกอีกได้
Q : เฝือกสบฟันใส่เพื่ออะไร
A : เพื่อป้องกันฟันสึกจากการนอนกัดฟัน